ว่าแล้วมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
11 มิถุนายน 2012….
ผมเดินทางไปทำงานกับกลุ่มเพื่อนๆ สายงานการแสดงเหมือนเดิมครับ
หากแต่ว่าผู้ร่วมงานไม่เหมือน ครั้งที่ไปสิงคโปร์ จะมีก็แค่เพื่อนนักดนตรีที่เล่นตำแหน่งคีย์บอร์ดคนเดียว นอกนั้นคนใหม่ทั้งหมดรวม 14 ชีวิต ตามสัญญาว่าจ้างจากผู้ประกอบการที่โน่น
ออกจากกรุงเทพโดยเครื่องบินไปลงที่หาดใหญ่ แล้วทางผู้ประกอบการได้จัดรถตู้สองคันมารับที่สนามบินหาดใหญ่ จากนั้นใช้เวลาเดินทางไปอีก ชั่วโมงเศษๆก็เข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง อำเภอสะเดา แล้วผ่านเข้าเขตประเทศมาเลเซีย
จากจุดนั้นเดินทางไปอีกสามชั่วโมงก็ถึงสะพานข้ามไปเกาะปีนัง ซึ่งสะพานนี้มีความยาวถึง 13 กิโลเมตรเลยทีเดียว วิวโดยรอบสวยงามครับ มองเห็นเกาะเล็ก เกาะน้อย เป็นทิวทัศน์ที่น่ามอง ปีนัง เป็นรัฐๆ นึง ในประเทศมาเลเซีย มีสองเขต ส่วนที่ยังไปข้ามสะพานไปเรียกว่า บัตเตอร์วอร์ท และส่วนที่ข้ามสะพานปีนังไปแล้วเรียกว่า จอช์จทาวน์ ครับ ซึ่งคณะพวกผมต้องทำงานที่นั่น ผู้คนที่ปีนังก็เป็นคนจีนเชื้อสายมาเล คนมาเลโดยกำเนิด และคนอินเดีย รวมทั้งบังคลาเทศ
การเดินทางที่นั่นมีรถเมล์ครับแต่ดูเหมือนจะน้อยกว่ารถยนต์ส่วนตัวนะตามที่เห็น เพราะเวลารอขึ้นรถเมล์นานๆจะโผล่มาสักคันนึง ส่วนแท็กซี่มิเตอร์ก็มี แต่โบกทีไรบัง แกคิดราคาเหมาทุกที ไม่รู้เพราะอะไร แล้วจะมีมิเตอร์ไว้….เพื่อ?
อาหารประเภทหมู จะหารับประทานยากหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นไก่กับเนื้อ ส่วนผักราคาค่อนข้างแพงครับ ส่วนที่น่าแปลก คือ ราคาน้ำมันถูกกว่าเมืองไทย อยู่มากครับ ส่วนก๊าซ LPG ราคาแพงกว่าเมืองไทยครับ ที่พักของผมเป็นคอนโด ครับใหญ่มากสะอาด ผมอยู่ชั้น 14 และมีฟิตเน็คคลับอยู่ชั้น 5 ….เยี่ยมไปเลยขอบอก
ค่าเงินมีหน่วยเป็น ริงกิต "RM" (Ringgit Malaysia) ครับ
ส่วนอัตราแลกเปลื่ยนจะอยู่ที่ 1 ริงกิต เท่ากับ 10 บาท
ช่วงที่ผมไปมีการจัดงานเทศการศาลเจ้าของคนจีนมาเล ก็จะมีการแสดงขับกล่อมบทเพลงตามศาลเจ้าต่างๆเป็นเวลาถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนครับ เล่นเอาผมนอนไม่ได้ต้องหา Ear-plug มาอุดหูกันเลย หลายคนสงสัยว่า เห็นลงเรื่องลี้ลับหลายเรื่องที่ไปมา แล้วที่มาเลไม่เจอบ้างหรืองัย …!!!!!
หึหึ…เจอซิครับ แต่ไม่จัง แหม!!!!
ก็ช่วงเทศกาลนี้แหละพอดิบพอดี วันหนึ่ง ผมอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน รวมทั้งเพื่อนๆด้วย ระหว่างที่ผมออกจากห้องน้ำ ก็มองไปด้านเทอร์เรซด้านนอกซึ่งเป็นกระจกบานเลื่อน …โอ้ววว …พระเจ้า…
ผมเห็นผู้หญิงหน้าตาคมๆผิวสี เอวบางร่างน้อยเธอใส่กางเกงและใส่เสื้อแขนสามส่วนสีค่อนข้างขาว นั่งอยู่ด้านนอกระเบียงเทอร์เรซนั้น ซึ่งเป็นจุดที่พวกเราชอบไปนั่งเล่นรับลม สูบบุหรี่ อะไรทำนองนั้น แต่ผู้หญิงหน้าตา มาเล๊ มาเล คนนั้นมาจากไหนอ่ะ พวกเราไม่มีใครเป็นมาเลเชื่ยน นะ!!!!
ผมจ้องมองไปที่เธอ เธอเองก็จ้องมาที่ผม มันทำให้ผมงง เลยหันไปถามเพื่อนที่รออาบน้ำต่อจากผทนั้นว่า เห็นผู้หญิงนั้งอยู่ระเบียงมั้ย เพื่อนตอบว่า ไม่เห็นมีใครนี่ …!! พอผมหันกลับไปพร้อมกับเอ่ยปากพูดว่า ก็นั้นงัย พร้อมเดินไปที่ระเบียงเทอร์เรซ แต่ทว่าไม่มีใครเลย ไม่มีใครนั่งอยู่ที่นั่น ผมคิดในใจว่า “โดนซะแล้วงัย”
คนอื่นๆก็มีเจอกันบ้างพอมีสีสันประเภทเห็นเงาในห้อง แต่เปิดห้องไม่เจอใครเลย ก็มีประมาณนี้ครับ ผมทำงานที่ปีนัง หนึ่งเดือนกับยี่สิบวัน แล้วพวกผมก็ขอกลับ เพราะเนื่องจากหุ้นส่วนบริหารมีปัณหากันเอง แต่พวกผมก็ดีใจครับที่ทำยอดขายของร้านผู้ประกอบการ ได้กำไรมาก และเป็นยอดที่มากที่สุดตั้งแต่มีคนไทยไปทำงานที่นั่น รวมทั้งผู้ร่วมงานคนมาเล ทุกคนอัธยาศัยดีมาก เป็นกันเองด้วย
ดีใจที่ได้มีโอกาสไปที่นั่น ดีใจที่นำเม็ดเงินกลับเมืองไทย และดีใจที่ปลอดภัยกลับมา…….
0 comments:
Post a Comment